Home
หน้าแรก
About Us
เกี่ยวกับเรา
News & Activities
ข่าวสารและกิจกรรม
Promotions
โปรโมชั่น
Scholarship
ทุนการศึกษา
How to pay
วิธีการชำระเงิน
Contact Us
ติดต่อเรา
 
  Work and Travel
  Training & Internship
  Au Pair
  Work and Study
  High School
  Student Exchange
  Study Abroad
  English Course
  CampTour
  Tour
  ทุนไปแลกเปลี่ยนอเมริกา
   แบบทดสอบก่อนไป
Work & Travel
เด็กดี.คอม
ไปทัวร์ล่องเรือสำราญ กับ Worantex
จองตัวเครืองบินนักเรียน-นักศึกษา
Announcement
ติดตามทุนนักเรียนแลกเปลี่ยน AYP รุ่นที่ 14 เร็วๆ นี้
Hot Topic
ประเด็นร้อน
Experience
ประสบการณ์ใหม่
Partner
พันธมิตรของเรา
Gallery
อัลบั้มภาพ
FAQ
คำถามพบบ่อย
Links
ลิ้งค์เกี่ยวข้อง
Announcement
ประกาศ
About VISA & Country
เกี่ยวกับวีซ่าและประเทศ
สมัคร ออนไลน์
เข้าร่วมโครงการ
และสอบชิงทุน
คลิกที่นี่คะ
 !!! 
Member Sign In
Member Sign Up
Forgot Password
Work and Travel in USA   AYP (Academic Year Program)   Traning-Internship in USA   Au Pair in USA   Work and Study in Canada   Work and Study in UK   Summer Camp Tour UK   Summer Camp Tour Singapore
 Work and Travel in USA
Work and travel Experience
With Worantex

I believe that many of Thai students are thinking to go for work and travel program in the USA with some different purposes. Some desires to gain some money, work experiences or even boy or girlfriends. Just like me!I myself, am one of that kind of people who wants to go to the US for those kind of reasons. Then I think that I was a very lucky person to be there, once in my lifetime and I got various unforgettable experiences. I totally enjoyed it a lot. So, I will use this chance to share to you my great experience to encourage you, if you are thinking about it.

Last summer, I had a chance to go to the US as an intern for work and travel program with Worantex company. I have been to Chester, Maryland state. I worked in a Japanese restaurant called “Sado Café” I worked in several and different positions in a week, including kitchen staff, busboy, sushi maker and dish washer. My favorite position is busboy, because I could get some tips. That sounds like awesome and interesting, right? I have to say that it is the greatest experience for working there and got to learn many things I have never learned before. Now, I think I can open my own sushi restaurant. Most of my coworkers were Indonesian and they were very nice and friendly. They trained me from A-Z. I, myself, never known how to work at all, but now I almost know everything about Japanese restaurant. That’s why I said I could have my own Japanese restaurant, by the way. However, I also have American friends. They are extremely friendly and funny, but sometimes they are crazy as well ( lol ). I had learned a lot of new English vocabulary and idioms that helped my English improve a lot. I am really happy to be friends with Indonesian and Americans. All in all, working with them was never a problem at all, in contrast, I want to thank them for giving me a happy time while working there. I love them so much …

Besides being lucky for work, I was also lucky for my accommodation. I had a chance to stay in an American house with my merciful landlord, named Mr. Brian W. He is a kind of wonderful person. He is a retired professor. All my time staying there, he took care of me as his own son. He also renamed me “Sunshine” and I really appreciated that. In the morning, he usually provided some breakfast for me and other exchange students. I think he is very rich. He has his own boat, five expensive cars and helicopter. He also has a Jacuzzi in his house. Those things amused and excited me a lot. One day, I and my friends got a day off together; he took us to Washington DC. However, he is sometimes a strict person; he always fussily asked us to clean up our bedroom and bathroom.

Once I had a chance to visit Washington DC. I was really excited and shocked of its extravaganza. Every building is so beautiful that made me want to move and settle over there. I also visited the White House where Mr. Barak Obama is working in, and I found that the White House has very high security; around the house is surrounded by the guards. Moreover, I was stunned by the American Monument which is loftily high and outstanding.

Even though it was a very short time being there, but it was my greatest and best time for once in my lifetime. I made everything in everyday with my intention and be happy with it, not just made it through a day. So, I never regretted. Work and Travel program gave me many things, such as being punctual, responsible, economical and being able to solve an unexpected problem. Those kind of things made me grow up and methodically thoughtful. If you are thinking about going for it, JUST GO! , no need to wait. Then you will find I’m not lying.

By : Mr.PANAWAT BUAPA ASSUMPTION UNIVERSITY
ใครหลายคนก็คงเคยมีความฝัน ความฝันที่จะได้ไปท่องเที่ยวในดินแดนอันห่างไกล ความฝันที่จะได้ไปสัมผัสบรรยากาศใหม่ที่ไม่เคยเห็น หลายคนก็จินตนาการเอาตามภาพที่ได้อ่านจากในหนังสือนวนิยาย หรือเห็นจากในละครหรือหนังภาพยนตร์ ดินแดนอันไกลโพ้นที่หลายคนเฝ้าคิดว่าเมื่อใดจะมีโอกาสไปถึง ดอกไม้หลากสีพรรณไม้นานาชนิดที่เฝ้าคิดว่าสักวันจะต้องไปถ่ายรูปคู่กันใกล้ๆ ทุกคนมีความฝัน ฝันที่จะต้องไขว่คว้าหาโอกาส และฉันก็เป็นหนึ่งในนั้น เมื่อโอกาสเข้ามาให้ได้เดินตามความฝัน

ฉันเป็นนิสิตคณะครุศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ครอบครัวและเพื่อนๆเรียกฉันว่า บูม โอกาสที่จะเดินตามความฝันนี้เข้ามาในชีวิตของฉันเมื่อฉันได้รับทุนจาก Worantex ในโครงการ Work and Travel รุ่นที่ 6 หรือรุ่นปี 2013 ใครๆก็จะคิดเสมอว่าฉันเก่งอยู่ก่อนแล้วถึงได้รับทุนนี้ ความจริงแล้วไม่ใช่เลย ลองมองดูที่ตัวตนฉันสิ เพราะความฝันของฉันต่างหากที่ผลักดันให้ฉันไขว่คว้าหาโอกาสดีๆให้เข้ามาในชีวิต เพราะความฝันฉันอีกนั่นแหละที่ผลักดันให้ฉันต้องพัฒนาตัวเองตลอดเวลา และปรับทัศนคติที่มีต่อทุกสิ่งรอบตัวให้เปลี่ยนไปจากเดิม

ฉันใช้เวลาเตรียมตัวและเตรียมใจไม่นานมาก แต่ก็นานพอที่จะศึกษาข้อมูลคร่าวๆของสิ่งที่ฉันจะต้องเจอในอนาคตไว้พอสมควร ฉันได้งานทำที่โรงแรม Anchorage by the seaเมือง Ogunquit รัฐ Maine ในตำแหน่ง Housekeeping ฟังดูเป็นเรื่องท้าทายสำหรับคนที่ไม่เคยทำอะไรบ้าบิ่นมาก่อน จากการเป็นเด็กเรียนแว่นเนิร์ด ก็ถึงเวลาจะสลัดคราบความเนิร์ดทุกรูปแบบ และเปิดใจพร้อมรับสิ่งใหม่ที่จะเกิดขึ้นในอนาคต

การเดินทางไปถึงสหรัฐอเมริกาไม่ใช่เรื่องยาก ในภาพความคิดแรกคือมันต้องลำบากมากแน่เลย จะตกเครื่องรึเปล่า ถ้าตกเครื่องจะทำยังไง ทุกอย่างทำให้ฉันกังวลไปหมด แต่ใครจะไปรู้ว่าแค่เพียงเราเอาชนะความกลัวและตั้งสติให้พร้อมตลอดเวลา ฉันไปขึ้นเครื่องผิดเกทด้วยซ้ำ แต่นั่นไม่ใช่ปัญหา เมื่อรู้ว่าผิดก็รีบแก้ โกยตีนหมานักกีฬาร้อยเมตรบึ่งหน้าพร้อมสัมภาระอันรุงรังไปอีกเกทที่เครื่องกำลังจะออก เป็นอีกหนึ่งความท้าทายและความภาคภูมิใจ และฉันก็ไปถึงที่หมายโดยสวัสดิภาพและ หมดสภาพ

การเริ่มต้นทำงานกับเพื่อนร่วมงานที่ใช้คนละภาษาเป็นอะไรที่ยากในช่วงแรก ฉันโดนหัวหน้าบ่นบ่อยมากว่า “She writes E-mail very clear why she can’t listen what I say?” เป็นคำถามที่ฉันก็ตอบไม่ได้ ฉันก็พยายามที่จะพูดจะคุยจะหาเรื่องเม้ากับเพื่อนร่วมงานที่เทรนงานฉันตลอดเวลา แววตาเธอดูเปี่ยมความภูมิใจกับลูกชายที่รักอาหารเอเชีย ฉันชอบตรงนี้ ฉันชอบที่จะพูดคุยถึงอาหาร วัฒนธรรม และการท่องเที่ยวกับเพื่อนร่วมงาน ถึงคำพูดแต่ละประโยคของฉันมันจะออกมายากเย็นแสนเข็ญ กว่าจะฟังกันรู้เรื่องได้ แต่เชื่อไหมล่ะ ว่าทุกคนจะเห็นความพยายามของเรา และความพยายามของฉันนี่ล่ะที่ทำให้ฉันเอาตัวรอดได้จากทุกๆปัญหาเสมอมา

ในบางครั้งที่ทำงานหนักและเหนื่อยแถมยังโดนบ่นมากๆก็รู้สึกท้อ แต่เชื่อไหมว่าเราจะได้รับมิตรภาพและกำลังใจกลับมาหลายเท่านัก บางครั้งฉันก็แอบคิดว่าจะมาเหนื่อยทำอะไรอย่างนี้เนี่ย ปิดเทอมแท้ๆนอนอยู่บ้านสบายกว่าไหม แต่ว่า ทุกๆวันที่ฉันเดินกลับบ้าน ผ่านห้วยลำธารที่มีหิมะขาวโพลนปกคลุม มันสวยอย่างที่ฉันจะไม่มีวันลืมภาพนั้น เพราะฉันไม่เคยสัมผัส ฉันไม่เคยพบเห็น ฉันรู้สึกอิ่มกับธรรมชาติที่สวยงามที่คนอื่นๆอาจจะมองว่ามันก็เป็นเพียงต้นไม้ธรรมดาๆ แล้วต้นไม้ธรรมดาเหล่านั้นไม่ใช่หรือ ที่กว่าจะมาถึงเมืองไทยก็แพงลิบลิ่วและเหี่ยวเฉาไร้ความสวย ฉันชอบสองข้างทางและบรรยากาศที่รายล้อมรอบตัวฉัน มันทำให้ฉันเพิ่มพลังให้กับตัวเองได้เสมอ ในขณะที่เพื่อนอัพเดทว่าเมืองไทยร้อนถึงสี่สิบองศา ฉันยิ่งภูมิใจอย่างมากว่า ฉันไม่ต้องทนร้อนหูดับตับไหม้ขนาดนั้น

การอาศัยอยู่ร่วมกับเพื่อนคนไทยด้วยกันก็ไม่ใช่เรื่องยาก พวกเรามาจากคนละที่ไม่เคยรู้จักกันมาก่อน เป็นเรื่องปกติที่เราจะต้องปรับตัวเข้าหากัน แต่การปรับตัวนี้เป็นเรื่องสนุก บางวันก็จับเข่าคุย บางวันก็ตั้งวงร้องเพลง เล่นเกมส์ ปาร์ตี้หมูกระทะ และอื่นๆอีกมากมายที่ไม่เคยคิดว่าจะได้ทำร่วมกับใครตอนอยู่เมืองไทย บางครั้งที่เกิดปัญหาในที่ทำงานก็จะช่วยขายผ้าเอาหน้ารอดกันไป ช่วยเหลือกัน ยามอดก็อดด้วยกัน ยามอิ่มก็แสนจะอิ่มน้ำหนักขึ้นกันเป็นว่าเล่น ฉันมักจะขำเสมอเมื่อนึกถึงตอนนั้นที่เราอิ่มหนำสำราญกับฝีมือทำกับข้าวของรุ่นพี่ผู้ชาย(ซึ่งดูหน้าตาแล้วไม่น่าทำกับข้าวอร่อย) จนเพื่อนผู้หญิงต้องซื้อเครื่องชั่งน้ำหนักมาไว้ที่บ้าน พวกเรามีเรื่องสนุกสนานเฮฮากันได้ตลอดเวลา และเมื่อถึงวันหนึ่งที่เราต้องแยกย้ายกันไป มิตรภาพเหล่านั้นก็จะอยู่ในความทรงจำของเราไม่เคยเลือน

งานเลี้ยงย่อมมีวันเลิกรา เมื่อพบกันก็ต้องจากกัน ตลอดระยะเวลาสามเดือนที่เราทำงานทำให้เราเรียนรู้ปัญหาต่างๆและเรียนรู้ที่จะแก้ปัญหาให้ผ่านพ้นไป เรามักจะภูมิใจและคิดถึงวันยุ่งๆที่แปลกใหม่ของพวกเราเหล่านั้นเสมอ เมื่อหมดฤดูกาลทำงานของเรา ใกล้เวลากลับบ้าน เราก็เริ่มออกท่องเที่ยวกันแบบกึ่งมีจุดหมายปลายทาง คือรู้ว่าจะไปเที่ยวที่ไหนแต่ไม่รู้ว่าจะไปเยี่ยมชมอะไรบ้าง มันก็เป็นอีกเรื่องที่สนุกสนานทีเดียวที่พวกเรามักจะหลงทางกันเสมอๆ และบึ่งหน้าตรงไปหาตำรวจนิวยอร์คผู้หล่อล่ำเพื่อถามทางกลับบ้าน เป็นอะไรที่สนุกสนานและอิ่มเอมหัวใจสุดๆ(จนต้องแกล้งหลงบ่อยๆ) การจองตั๋วผิดหรือการตกเครื่องก็เป็นอะไรที่ทำให้เรารู้ว่า เจ้าหน้าที่พยาบาลของที่นั่นน่ารักจิ้มลิ้มน่าชวนคุยมากๆ

สุดท้ายแล้วเมื่อถามฉันว่าฉันมีความสุขหรือรู้สึกสนุกมากแค่ไหนกับการได้นำพาตัวเองไปเรียนรู้ชีวิตในช่วงสามเดือนที่ผ่านมานี้ ฉันก็จะตอบทุกๆคนที่ถามฉันว่ามันเป็นความรู้สึกแบบครึ่งๆ ฉันผ่านปัญหาเพราะมีมิตรภาพคอยช่วยเหลือ ฉันผ่านความทุกข์ที่มีรอยยิ้มคอยจุนเจือ ฉันร้องไห้ แต่หยดน้ำตานั้นมีกำลังใจมากมายคอยปลอบฉัน ฉันทำงานเหนื่อย แต่ผลตอบแทนของงานหนักเหล่านั้นคือทักษะที่จะติดตัวฉันไป และเมื่อฉันเสร็จสิ้นภารกิจนั้นแล้วฉันได้ท่องเที่ยว ฉันตอบทุกคนเหมือนกันคือมันเป็นความสุขครึ่งหนึ่ง ความทุกข์ครึ่งหนึ่ง มันเป็นเรื่องธรรมดาของชีวิตคนเราที่จะต้องเจอทั้งความสุขและปัญหา และในเมื่อเราผ่านปัญหานั้นมาได้แล้ว เราก็ควรเลือกที่จะมองปัญหานั้นให้เป็นเรื่องที่น่าภูมิใจ ปัญหาที่ผ่านการแก้ไขแล้วเป็นประสบการณ์และความสำเร็จหนึ่งของชีวิตเสมอ ฉันได้เรียนรู้วัฒนธรรมที่หลากหลาย ได้เจอผู้คนที่มาจากทั่วโลก ได้พบเจอผู้คนที่ต่างสีผิวต่างภาษา ฉันบรรลุวัตถุประสงค์ของการเดินทางตามความฝัน ฉันได้มีประสบการณ์การทำงานที่ฉันอาจจะไม่มีโอกาสได้ทำในประเทศไทย ฉันมีมิตรภาพที่ดีให้กันระหว่างเพื่อนที่อยู่คนละซีกโลก ฉันได้เรียนรู้ที่จะพูด ฟัง และตั้งใจที่จะพัฒนาตัวเองให้ดีขึ้นอยู่ตลอดเวลา ในวันนี้ถึงฉันจะตอบว่าฉันได้รับความสุขครึ่งหนึ่งและความทุกข์อีกครึ่งหนึ่ง แต่ทั้งหมดนั้นมันก็คือประสบการณ์ที่ทำให้ฉันได้เปิดมุมมองและความคิด ทำให้ฉันได้พบเจอกับโลกใหม่ๆ ฉันขอบคุณตัวเอง ฉันขอบคุณพ่อแม่ ฉันขอบคุณครอบครัว ฉันขอบคุณพี่ๆ Worantexที่คอยเป็นกำลังใจให้ฉันเสมอ ฉันเชื่อว่าฉันเองจะไม่หยุดอยู่แค่ตรงนี้ ในเมื่อฉันมีโอกาสครั้งหนึ่งที่ได้รับมาจาก Worantex ให้เดินตามความฝันฉันแล้ว ต่อจากนี้ฉันก็จะพยายามอย่างถึงที่สุดเพื่อความฝันฉันต่อไป เพราะถึงแม้ว่าเราจะไม่รู้ว่าทางข้างหน้าจะเป็นอย่างไร แต่เราย่อมรู้ว่า หากเรายืนอยู่กับที่ เราก็จะไม่สามารถทำความฝันของเราให้สำเร็จได้เลย
By : บูม นิสิตคณะครุศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย
ชื่อพลอย นะคะ ปีนี้ พลอย มา Easton ที่รัฐ Maryland คะ จะบอกว่า การมาครั้งนี้ ได้ประสบการณ์เยอะมากๆ ๆ ประสบการณ์ที่ไม่เคยเจอในตอนที่อยู่ในเมืองไทย แต่จะบอกว่าเป็นประสบการณ์ที่ดีทั้งหมด ไม่ได้ ยกตัวอย่างเช่น เพื่อนในที่ทำงาน มีหลากหลายรูปแบบ บางคนก็ดี บางคนด่าเราต่อหน้า สิ่งพวกนี้เป็นอะไรที่ไม่เคยเจอสมัยเรียน แต่ถ้าเราผ่านเรื่องพวกนี้ ไปได้ มันก็จะทำให้เราเข็มแข้งขึ้น ทำให้เรารับมือได้ตอนที่เราเรียนจบ และเข้าสู่ชีวิตจริงในการทำงาน อีกอย่างการที่เรามาอยู่แบบนี้ เวลามีปัญหา เราต้องช่วยตนเอง พยายามแก้ปัญหา หาข้อมูลด้วยตนเอง ทำให้รู้เลยว่า คำว่าลำบากมันเป็นอย่างไร แต่ทั้งนี้ทั้งนั้น แม้ว่าสิ่งที่เราะเจอจะดีหรือไม่ดี ประทับใจ หรือไม่นั้น ทุกอย่างล้วนแต่ทำให้เราเข็มแข็งขึ้น มองโลกกว้างขึ้น เข้าใจสังคม ผู้คนมากขึ้น อยากจะฝากบอกเพื่อนๆ รุ่นต่อไป นะคะ ว่าถ้าตัดสินใจจะมาแล้ว มันไม่ได้มาง่ายๆ เพราะฉะนั้น ก็อย่าท้อง่ายๆ สู่ต่อไป แก้ปัญหา แล้วทุกอย่างจะดีขึ้นอง คะ
By : พลอย ดารณี สิริสัจคุณ ABAC ปี 4
สวัสดีค่ะ ก่อนอื่นขอแนะนำตัวก่อนนะคะชื่อ กิ๊ก ศุภากร เนตรวิจิตรค่ะ อยู่ชั้นปีที่ 2 คณะวารสารศาสตร์และสื่อสารมวลชน มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ เมื่อช่วงปิดเทอมเดือนมีนาคม – มิถุนายนที่ผ่านมาได้สอบชิงทุนเข้าร่วมโครงการ Work and Travel ไปทำงานที่สวนสนุก Family Kingdom เมือง Myrtle Beach รัฐ South Carolina ค่ะ ตั้งแต่เริ่มออกเดินทางก็ตื่นเต้นมากๆเลยค่ะ เป็นการเดินทางที่ยาวนานที่สุดแล้วในชีวิต ต้องต่อเครื่องหลายต่อตั้งแต่ Bangkok – Taipei – LA – Atlanta – Myrtle Beach พอไปถึงสนามบินก็ต่อแท็กซี่ไป Apartment ค่ะเพื่อนๆก็มารอรับ เจ้าของ Apartment ชื่อป้า Anna ใจดีมากๆเลย ที่พักก็สะดวกสบาย มีทุกอย่างอำนวยความสะดวกครบ พอช่วงสัปดาห์แรกที่ไปถึงเป็นช่วง Spring Break ที่โรงเรียนในอเมริกาจะหยุดประมาณ 2 สัปดาห์ สวนสนุกเปิด 7 วันเลยค่ะทำงานตั้งแต่เที่ยงวันจนถึงเกือบๆเที่ยงคืน เหนื่อยแต่พอเห็นเงินก็คุ้มค่ะ หลังจากนั้นสวนสนุกก็เปิดตามปกติช่วง weekend ทำให้พอมีเวลาเหลือไปหา Second Job ทำได้ค่ะ แต่ช่วงที่พวกเราไปกันเป็นช่วงที่ low season ทำให้งานตามร้านต่างๆยังไม่รับคนค่ะ เราเลยเข้าไปขอพี่เจ้าของร้านอาหารไทยที่นั้นช่วยทำงานค่ะ ได้ทำในครัว หั่นผัก ล้างจาน ทำความสะอาด แถมยังได้ทานอาหารไทยอีกด้วยเป็นอะไรที่สวรรค์ประทานมากค่ะ พี่ๆที่ร้านใจดีและน่ารักมาก ช่วงวันจันทร์ถึงวันพฤหัสเราก็ไปทำงานที่ร้านอาหารไทย พอวันศุกร์ถึงวันอาทิตย์เราก็ไปทำงานที่สวนสนุก งานที่สวนสนุกเราได้ทำส่วน Booth ขายน้ำปั่นเรียกว่า “Slushy” ได้เจอลูกค้าที่มาเป็นครอบครัว มีเด็กๆน่ารักๆเต็มไปหมดเลยค่ะ ได้พูดภาษาอังกฤษตลอดเวลา นายจ้างก็ใจดี เพื่อนร่วมงานก็มีหลากหลายเชื้อชาติ เป็นมิตรกับเรามากๆ ช่วยเหลือกันตลอด เราได้เรียนรู้วัฒนธรรมจากเพื่อนๆหลายอย่างเป็นอะไรที่แปลกใหม่สำหรับเรามากเลย เพื่อนเด็กไทยเวลาอยู่ด้วยกันมีความสุขเสมอ พวกเราร่วมทุกข์ร่วมสุขด้วยกันตลอด ช่วงเดือนเมษายนเจ้าหน้าที่จาก AWA Visa Sponsor ที่อเมริกาก็มาเยี่ยมพวกเรา พาไปทานอาหารบุฟเฟต์อิ่มและอร่อยสุดๆไปเลยค่ะ ทีหลังเราย้ายไปอยู่บ้านพี่คนไทยที่เราไปทำงานที่ร้าน พี่ๆดูแลเราดีมากเหมือนคนในครอบครัวเลย บางทีพี่ๆก็ชวนเราไปเที่ยวต่างรัฐ เช่น ไปเที่ยว North Carolina Aquarium ไปเก็บสตรอเบอร์รี่ ไปเดินสวนสาธารณะที่เมือง Wilmington ไปเที่ยวทะเลที่ Oak Isalnd ไปนั่งเรือ Ferry ที่ Southport ส่วนเมือง Myrtle Beach นั้นมีทะเลที่สวยมาก คนจะเยอะช่วง Summer ที่ๆห้ามพลาดเมื่อไปถึงเมืองนี้คือ Broadway เป็นสถานที่ที่มีร้านค้า ร้านอาหาร มีกิจกรรมต่างๆให้ทำมากมาย มีเด็กไทยไปทำงานที่นั้นก็เยอะเช่นกัน เข้าไปบางร้านถ้าเจอเพื่อนคนไทยก็จะได้ส่วนลดไปด้วย เด็กไทยที่นี่จะรู้จักกันหมดเพราะพวกเราจะมี Thai Students Party กันทุกวันพุธที่หลังร้านอาหารไทย ทุกคนก็จะมาพูดคุย ทานอาหารไทย เล่มเกมด้วยกัน บรรยากาศอบอุ่นสนุกสนานมากๆ เรารู้สึกรักเมืองนี้ รักคนที่นี่ รักทุกๆอย่าง เราโชคดีมากๆๆที่ได้มาที่นี่ มันเป็นประสบการณ์คุ้มค่ามากจริงๆ ได้เรียนรู้การใช้ชีวิตด้วยตัวเอง ได้เปิดโลกกว้าง พบปะผู้คนใหม่ๆแลกเปลี่ยนวัฒนธรรมซึ่งกันและกัน ได้ฝึกภาษา ได้เห็นน้ำใจของคนไทยด้วยกัน ทุกอย่างรอบตัวล้วนสอนให้เราเติบโตขึ้น ขอบคุณบริษัท Worantex ที่มอบโอกาสดีๆแบบนี้ให้ ขอบคุณพี่ๆทีมงานที่คอยให้คำปรึกษาและคำแนะนำต่างๆค่ะ
By : น้องกิ๊ก ศุภากร เนตรวิจิตร ชั้นปีที่ 2 คณะวารสารศาสตร์และสื่อสารมวลชน มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์
สวัสดีครับผมชื่อ ท๊อป อชิระ เข้าร่วมโครงการ Spring Work and Travel 2010
ได้มีโอกาสไปทำงานที่ Great Wolf Lodge ตำแหน่งงาน Lifeguard ที่เมือง Grand Mound รัฐ Washington USA
อย่างแรกเลยคือ คิดว่าเราอยู่ปี 4 แล้ว ปีหน้าก็จะเรียนจบ และทำงาน คงไม่มีโอกาสได้ไปอเมริกา หรือถ้ามีก็คงอีกนานแน่ๆ และคิดว่าภาษาอังกฤษมีความสำคัญในปัจจุบันอย่างมากจึงตัดสินใจไปโครงการครับ
ประทับใจความเป็นอิสระครับ จากอยู่ที่เมืองไทยแล้วมีรายรับที่จำกัด พอมาทำงานเออก็รู้สึกว่าเราได้ใช้เงินของตัวเองและเห็นคุณค่าของเงินที่กว่าจะหามาได้มากขึ้น ผมเป็นคนปรับตัวง่าย จึงไม่ต้องปรับอะไรมากนัก ช่วงแรกอาจจะไม่ชินกับอากาศที่หนาวมากบ้าง ทำงานเป็น lifeguard รู้สึกเป็นงานที่สนุกมาก ได้เจอรู้จักเพื่อนใหม่เพิ่มขึ้นเยอะครับ รู้ว่าที่นี่เค้ามีการทำงานที่เป็นระบบ และตรงต่อเวลามากๆ ทำให้เราได้ฝึกฝนให้เป็นคนตรงต่อเวลามากขึ้นด้วย รู้จักแก้ไขปัญหาเฉพาะหน้า เพราะเรามาที่นี่ไม่มีพ่อแม่คอยแก้ไขปัญหาของเราได้เหมือนอยู่ไทย ทุกคนต้องเจอปัญหาแน่นอนจะอยู่ที่หนักหรือเบา แค่นั้นเอง แต่ถ้าผ่านมันไปได้ก็จะทำให้เราแกร่งมากขึ้นครับ
Work and Travel เป็นโครงการที่ดีมากครับ สนุกและได้รับประสบการณ์มากมาย จากที่นี่ ซึ่งรอให้เพื่อนๆ ค้นหาด้วยตัวเองอยู่ครับ

By : ท๊อป อชิระ กิตติกุลชาติ ปี 4 มหาวิทยาลัยสยาม
"น้องแอนน์" น้องทุน Worantex Work & Travel in USA 2010 ได้รับทุนอันดับที่ 1 ฟรีค่าโครงการและค่าตั๋วเครื่องบิน มูลค่ากว่า 80,000 บาท

อีกบทหนึ่งในชีวิต : Work & Travel

เมื่อคิดถึงฟลอริด้า คนมักจะนึกถึงสายลมและแสงแดด แอนน์เองก็คิดเหมือนกัน แต่แอนน์และเพื่อนคนไทยอีกหลายคนต่างต้องเผชิญกับความหนาวเย็นยิ่งกว่าเมืองเหนือบ้านเรา เมื่อเหยียบเมือง Panama City เมืองเล็กๆในรัฐฟลอริด้า เมืองนี้เป็นเมืองที่เด็กมหาวิทยาลัยจากทั่วสหรัฐแห่กันมาปาร์ตี้กันทั้งวันและคืนในช่วงSpring break ซึ่งช่วงนี้กิจการต่างๆโดยเฉพาะกิจการโรงแรมจะเป็นช่วงไฮซีซั่น กิจการต่างๆต่างก็ต้องการคนงาน แอนน์กับกลุ่มเพื่อนที่มาถึงพร้อมกันเลยได้รับจ๊อบสองเมื่อมาถึง ถือว่าเป็นเรื่องที่ดีมากๆสำหรับแอนน์ที่มีรายได้เพิ่ม ตอนกลางวันแอนน์และเพื่อนจะสวมชุดเสื้อลายดอกกางเกงม่วงเป็นHousekeeperที่โรงแรม The Boardwalk Resort พอตกกลางคืนก็จะเปลี่ยนชุดกลายเป็นSecurity ที่โรงแรม Days Inn
งานเฮ้าส์ต่างเป็นงานที่ทุกคนต่างต้องรับมือกับการเนรมิตห้องหลังปาร์ตี้ที่กระจุยกระจายของแขกให้กลายเป็นห้องที่สวยงามเยี่ยงห้องเช็คอินใหม่ ซึ่งเป็นเรื่องที่ท้าทายมากสำหรับทุกคน (เด็กไทยหลายคนที่เป็นเฮ้าส์ด้วยกันถึงกับต้องยอมยกธงขาว และย้ายงาน ย้ายเมืองไปเลย) ถึงแม้หลายครั้งแอนน์ก็ท้อกับการเก็บกวาดห้องของแขก แต่สิ่งหนึ่งที่แอนน์ประทับใจมากๆคือแขกเกือบทุกคนต่างเป็นมิตรกับพวกเด็กไทยมากๆ ส่วนงานSecurity เป็นงานที่แอนน์รู้สึกสนุกที่สุดแล้ว เพราะเป็นงานที่แอนน์มีโอกาสได้ใช้ภาษาอังกฤษพูดกับแขก และเรียนรู้วัฒนธรรมของนักศึกษาอเมริกันโดยที่แขกเองจะเข้ามาทักทายและพูดคุยกับเรา ทุกคืนแอนน์จะต้องตรวจ Wristband ของแขกที่พัก หากแขกคนไหนไม่มี Wristband จะไม่สามารถเข้าในเขตโรงแรมได้ คืนแรกที่ไปทำงานนี้ แอนน์และเพื่อนๆต่างต้องยืนตัวแข็งตามจุดต่างๆที่ต้องเฝ้าซึ่งแต่ละที่เป็นที่เปิดทั้งนั้น คืนนั้นพวกเราตากลมหนาวที่อุณหภูมิต่ำกว่า 10oC ตั้งแต่หกโมงเย็นถึงเที่ยงคืน คืนถัดไปทุกคนเลยต้องเตรียมชุดรบกับความหนาวใหม่ แต่ละคนใส่เสื้อหนาวประมาณสองถึงสามตัวขึ้นไป ซึ่งก็ช่วยให้รู้สึกอุ่นขึ้นมานิดหนึ่ง จากการทำงานนี้แอนน์ประทับใจกับคนอเมริกันมากๆที่เขาต่างมีระเบียบวินัยมากๆ หากแอนน์บอกเขาว่าเขาไม่สามารถเข้าเขตได้ เขาก็เชื่อฟังและปฏิบัติตาม จะมีเพียงน้อยคนนักที่หาเรื่องกับเราที่ไม่ยอมให้เขาเข้า แต่ส่วนใหญ่ก็จะเข้าใจว่าเรากำลังปฏิบัติหน้าที่ของเราอยู่
เมื่อหมดช่วง Spring break ทุกอย่างก็เปลี่ยนไป ความฝันที่จะเก็บเงินเยอะๆเพื่อไปเที่ยวและช๊อปปิ้งเริ่มริบหรี่ แอนน์ไม่ได้ทำจ๊อบสองแล้ว งานเฮ้าส์ซึ่งเป็นงานหลักของแอนน์ก็ถูกลดชั่วโมงการทำงานลงจากห้าวันต่อสัปดาห์เหลือเป็นสี่วันต่อสัปดาห์ แขกที่พักในโรงแรมเหลือจำนวนน้อยมาก แต่Housekeeper กลับมีมากในโรงแรม หลายๆครั้งที่เด็กไทยจะต้องถูกเชิญให้กลับบ้านในวันที่ต้องทำงานเพราะไม่มีงานให้ทำ จนบางสัปดาห์เด็กไทยได้ทำงานเพียงสองวันต่อสัปดาห์ แอนน์จึงหาจ๊อบเพิ่ม แล้วแอนน์ก็ได้งานที่ร้าน McDonald’s
ร้านแม็คที่แอนน์ทำอยู่ใกล้บ้าน เพราะแอนน์เลือกทำกะดึกจึงไม่มีปัญหาเรื่องการเดินทาง งานนี้เป็นงานที่ท้าทายความสามารถของแอนน์จริงๆ เพราะเราจะต้องเรียนรู้และจดจำการทำเบอร์เกอร์ การทอดเฟรนซ์ ฟราย กดน้ำ ทำไอติม(แอนน์ต้องบอกลูกค้าที่ทุกครั้งที่ยื่นไอติมให้ว่า “โปรดดูไอติมให้เป็นศิลปะ”!!) และงานนี้เปิดโอกาสให้แอนน์ได้ใช้ภาษาอังกฤษอย่างเต็มที่ในการสื่อสาร เนื่องจากเพื่อนร่วมงานที่แม็คก็ส่วนใหญ่เป็นคนอเมริกันและวัยพอๆกับเรา (ต่างจากงานเฮ้าส์ที่ส่วนใหญ่จะเป็นคนจาไมก้า) แอนน์เลยได้พูดคุยเล่นกับเพื่อนร่วมงานเยอะ แต่งานแม็คเองก็ให้ชั่วโมงทำงานน้อย แอนน์กับพี่คนไทยที่ทำด้วยกันจึงต้องคอยอ้อนวอนผู้จัดการด้วยประโยคเด็ด “No work, no money, no food, I die!” พร้อมกับทำหน้าน่าสงสาร สุดท้ายเขาก็เห็นใจเราและคอยเพิ่มชั่วโมงให้
ประสบการณ์ในการท่องเที่ยวของแอนน์อาจมีน้อย เพราะแอนน์ยอมรับว่าแอนน์งก และตั้งใจจะเก็บเงินกลับไปฝากคุณพ่อ แอนน์จึงไม่ได้ไปเที่ยวต่างเมือง ต่างรัฐ ซึ่งก็แอบเสียดายอยู่เหมือนกัน แอนน์ได้แต่เที่ยวในเมือง ช้อปปิ้งซื้อของกับเพื่อนๆ ไปกินบุตเฟ่ต์จีนตั้งแต่หกโมงเย็นจนปิดร้านเป็นประจำ จนพนักงานในร้านคงเอือมกับกลุ่มเด็กไทย บางวันอากาศร้อนก็โดดลงทะเลเล่นน้ำกับเพื่อนๆหลังตึกที่พัก เป็นการคลายความร้อนที่ดี Panama City เป็นเมืองที่มีเด็กไทยที่มาเวิร์คเยอะมาๆ ขึ้นรถประจำทางหรือไปห้างมักจะเจอเด็กไทยมากมาย จนบางครั้งแอนน์ไม่รู้สึกเมืองอยู่ต่างประเทศเลย แต่ก็เป็นบรรยากาศที่น่ารัก เพราะทุกคนแม้จะไม่รู้จักกันก็ทักทายและยิ้มให้กันด้วยความเป็นคนไทยด้วยกัน แอนน์เป็นคริสเตียน ทุกวันอาทิตย์เลยไปโบสถ์ใกล้บ้าน ทำให้เราได้รู้จักกับเพื่อนอเมริกันคนอื่นๆทั้งรุ่นเดียวกันและต่างรุ่น(รุ่นคุณแม่และคุณย่า) คนที่โบสถ์ทุกคนน่ารักและใจดี พวกเขาต้อนรับแอนน์เป็นอย่างดี บางครั้งเขาจะชวนแอนน์ไปบ้านเพื่อไปเล่นเกมหรือศึกษาพระคัมภีร์ แอนน์จึงได้สัมผัสกับวิถีชีวิตของคนอเมริกันอย่างใกล้ชิด
ในชีวิตๆหนึ่งของคน ย่อมไม่ได้มีแต่ประสบการณ์ที่ดีในทุกๆบทของชีวิต ในบางบทย่อมมีปัญหาถาโถมเข้าใส่ กลายเป็นบทที่เราไม่อยากอ่าน ประสบการณ์ที่ไม่อยากได้รับ ขอเพียงให้เราอย่าท้อถอย และยิ้มเข้าไว้ ^___^ ให้มองทุกๆประสบการณ์เป็นสีสันส่วนหนึ่งของชีวิต

สุดท้ายนี้แอนน์ขอบพระคุณพระเจ้าที่ทรงเสริมกำลังให้กับแอนน์ในการเผชิญกับสิ่งต่างๆ การใช้ชีวิตอยู่ที่อเมริกาและการทำงาน แอนน์ขอบคุณคุณพ่อคุณแม่และพี่ชายที่คอยเป็นกำลังใจและให้คำแนะนำแก่แอนน์เสมอ และที่สำคัญแอนน์ขอขอบคุณบริษัท Worantex ที่มอบโอกาสให้แอนน์ได้เรียนรู้ประสบการณ์อีกบทของชีวิตแอนน์ ขอบคุณค่ะ



By : กรุณา แอนน์ ตามี มหาวิทยาลัยเชียงใหม่
" นิค่ะ"
เรียนอยู่ ม.รามคำแหง คณะมุนุษย์ศาสตร์ สาขา สื่อสารมวลชน
ได้มีโอกาสเข้าร่วมโครงการ Work & Travel กับทาง Worantex ค่ะ

นิเลือกไป Work ที่ Myrtle beach , SC in USA ทำงานที่ Eagle Beachwear store ค่ะ
ก่อนการเดินทางไปถึงที่ Myrtle beach ตื่นเต้น นึกภาพอะไรไม่ออกเลย ไม่รู้ว่าการไป Work จะออกมายังไง แล้วนิเดินทางคนเดียว ก็คิดเหมือนกันว่าจะไปยังไงแบบไหน ไม่เคยนั่งเครื่องมาก่อนตื่นเต้นมาก
คอยดูสัญลักษณ์ต่างๆและ + เดา เอาค่ะ เอาความน่าจะเป็นที่เรียนคณิตศาสตร์มาใช้
ไปทำงานทั้งหนักบ้างเบาบ้าง ได้เรียนรู้ทักษะการขาย การจัดร้าน การเพ้นท์เสื้อ ได้ทำ แคชเชียร์ เป็นอะไรที่สนุกมากค่ะ ได้ประสบการณ์เยอะมาก
และทำให้รู้ว่าภาษา เป็นสิ่งที่จำเป็นและสำคัญมาก ไม่เฉพาะแค่ภาษาอังกฤษ ได้ทักษะในการฟังมากขึ้นค่ะ แต่การพูดยังคงต้องพัฒนา การทำงานที่เป็นทีม สำคัญมากเพื่อให้งานเสร็จเร็ว ถูกต้อง และเกิดผลที่ดีค่ะ
และได้ใช้ชีวิตร่วมกับคนที่เราไม่รู้จักมาก่อน ต้องปรับตัวเรื่องเวลา
ทำอาหารเองประหยัดได้มาก ถ้ามีเพื่อนร่วมแชร์ดีมากค่ะ
สิ่งสำคัญในการใช้ชีวิตแบบลำพังคือต้องสังเกตุ คนรอบข้าง ใช้ไหวพริบเยอะค่ะ ช่วงแรกนิเองก็งงกับเงิน USD เพราะใช้ไม่เป็นเลย จ่ายตังทีไรใช้ ใบอย่างเดียว พอนานเข้าก็ปรับตัวได้เข้าใจมากจนใช้แบบคล่องมาก
ซึ่งทุกสิ่งขึ้นอยู่กับความคิดของเราเอง เพราะการคิดในแง่ดีเป็นสิ่งสำคัญมากเมื่อเราเจออุปสรรค์ หรือปัญหา มันจะผ่านไปได้ด้วยดี เมื่อมองโลกในแง่บวกค่ะ
ขอบคุณ Worantex ขอบคุณเพื่อนซี้ที่ให้คำแนะนำไป eagle ค่ะ

By : นิ นักศึกษาปี 3 มหาวิทยาลัยรามคำแหง คณะมนุษย์ศาสตร์ สาขาสื่อสารมวลชน
‘น้องแอม’
แอม กฤติยา แต้มกิตติกุลค่ะ อยู่ ปี4 คณะโบราณคดี เอกภาษาฝรั่งเศส มหาวิทยาลัยศิลปากร วังท่าพระ ค่ะ เข้าร่วมโครงการ Work& Travel 2010 กับบริษัท Worantex ตอนปี 3 ทำงานร้าน Eagles ที่เมือง Myrtle Beach, South Carolina ค่ะ
รู้สึกว่าภาษาอังกฤษมีความจำเป็นมาก และในปัจจุบันก็มีแข่งขันที่สูง ซึ่งวิธีที่จะทำให้เราพัฒนาทักษะตรงนี้ได้อย่างมีประสิทธิภาพและรวดเร็ว ก็คือต้องเรียนรู้จากประสบการณ์จริง ตอนแรกก็กลัวสารพัดเลยค่ะ ทั้งจะโดนหลอกมั้ย จะไหวรึเปล่า แต่คุณอาที่สนิทกันก็แนะนำบริษัท Worantex ให้ พี่เค้าให้ข้อมูลและก็คอยดูแลดีมากๆ เลยค่ะ เลยตัดสินใจเข้าร่วมโครงการ
สิ่งแรกที่ประทับใจตั้งแต่เหยียบแผ่นดินอเมริกาเลย ก็คือ อากาศเย็นค่ะ 55 ผู้คนที่นั่นเป็นมิตรมากๆ แล้วก็รู้สึกได้ถึงสิทธิเสรีภาพจริงๆ เพราะเค้าก็รับฟังความคิดเห็นของเรา ไม่ได้มองว่าเราเป็นแค่เด็ก และที่ชอบอีกอย่างก็คือ อาหารค่ะ Enjoy eating มากๆ แรกๆ ยอมรับว่าแอบขี้เกียจ แต่ก็คิดว่า นี่เรามาทำงานนะ ก็ต้องตั้งใจทำให้ดีที่สุด ไม่ให้เสียชื่อคนไทย เลยเต็มที่กับงาน กลายเป็น enjoy working ไปเลยค่ะ ส่วนด้านวัฒนธรรม แอมเป็นคนที่เปิดใจ ชอบรับและเรียนรู้สิ่งใหม่ๆ เพราะมันช่วยให้เราได้พัฒนาตนเอง แม้ว่าบางอย่างมันจะเป็นสิ่งที่เราไม่ได้คิดว่าจะเจอมาก่อน (ไม่คิดว่าจะมีในโลก) แต่แอมมองทุกอย่างเป็นเรื่องตลกค่ะ เลยสนุกกับมัน แล้วก็ทำให้เราได้เปิดโลกกว้างไปด้วย
แอมได้เจอนายจ้าง กับเพื่อนร่วมงานที่ดีมากค่ะ ให้ความรู้สึกเหมือนเป็นครอบครัว เวลาทำงานก็สนุก เล่นตลกกัน และเค้าก็สอนเราหลายอย่าง ทั้งด้านการทำงานและการใช้ชีวิต เวลาทำงานก็จะได้เห็นวิธีการทำงานของ Positive thinking ค่ะ เป็นสิ่งที่สำคัญที่สุด เพราะเราไม่รู้ว่าจะไปเจออะไรบ้าง ต่อให้เตรียมตัวมาดีแค่ไหน ก็อาจมีเรื่องที่ไม่คาดฝันเกิดขึ้น ซึ่งก็อยู่ที่มุมมองของเราว่ามองยังไง อย่างแอมมองทุกปัญหาเป็นเรื่องขำๆ นะคะ อย่างบางทีเราได้วันหยุด แต่อยู่ๆ นายจ้างก็มาบอกให้ไปทำงานหน่อยได้ไหม แอมก็คิดในใจ เอ้อดี ได้ตังค์เพิ่ม พอเราคิดในแง่บวก สติก็มา ปัญญาก็เกิด ทำให้ความคิดเราเป็นผู้ใหญ่ขึ้น และไม่ว่าเรื่องอะไร เราก็จะผ่านไปได้ด้วยดีค่ะ

By : แอม นักศึกษาปี 3 มหาวิทยาลัยศิลปากร วังท่าพระ
‘น้องฟ้า’
แนะนำตัวคร่าวๆ ค่ะ
ฟ้าค่ะ อายุ 21ปี ตอนนี้เรียนอยู่มหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ ปี 3 คณะมนุษยศาสตร์ เอกภาษาญี่ปุ่นค่ะ

ทำไมถึงตัดสินใจเข้าร่วมโครงการ Work& Travel
อยากที่จะยืนได้ด้วยตนเองโดยที่ไม่พึ่งพาคนอื่น และมีประสบการณ์การทำงานร่วมกับชาวต่างชาติ อยากที่จะเจอเพื่อนใหม่ๆ ได้ลองทำในสิ่งที่ไม่เคยทำมาก่อน ไปเที่ยวในสถานที่ที่แปลกๆ มันคงดูน่าตื่นเต้นดีนะ

นี่ไม่ใช่การไปเวิคครั้งแรก? (ครั้งที่เท่าไหร่ กับ agency ไหนบ้าง? ) ประทับใจอะไรที่อเมริกาถึงกลับไปอีก?
นี้ก็เป็นครั้งที่สามแล้วที่เข้าร่วมโครงการ Work and travel กับ worantex พี่ๆเค้าเป็นกันเอง คอยดูแลและให้คำปรึกษาตลอด สิ่งที่ทำให้อยากกลับไปก็คือ อเมริกาเป็นประเทศที่มีอากาศหนาวเย็น อาจจะฟังดูตลกถ้าจะบอกว่าประทับใจหิมะ วันที่หิมะตกหนัก ทุกสิ่งทุกอย่างในเมืองก็จะถูกปกคลุมไปด้วยหิมะอันขาวโพลน ทำให้รู้สึกเหมือนตัวเองอยู่บนสวรรค์

ต้องปรับตัวยังไงบ้างเกี่ยวกับการทำงานและวัฒนธรรมที่แตกต่าง?
สังเกตพฤติกรรมคนรอบข้างและนำปรับใช้กับตนเองอย่างเหมาะสม พยายามมองในมุมมองของคนอื่น คิดในแง่บวก
เล่าถึงประสบการณ์ที่อเมริกาซักนิดนึงค่ะ ( ทำงาน + ท่องเที่ยว )
คนอเมริกาเป็นคนที่เอาจริงเอาจังกับการทำงาน และก็ยังชอบงานสังสรรค์ไม่แพ้กัน แต่ไม่ว่ายังไงก็ต้องรู้จักรับผิดชอบในหน้าที่ของตนเอง

สิ่งที่สำคัญที่สุดที่เด็กเวิคควรมีคือ?
ความอดทน การปรับตัว และเปิดใจรับสิ่งใหม่ๆ

ฝากถึงเพื่อนๆที่สนใจเข้าร่วมโครงการ
ถ้าหากใครสนใจอยากหาประสบการณ์ใหม่ๆ อยากที่จะลิ้มลองรสชาติของชีวิตในต่างแดน ฉันคิดว่า worantex คงจะเป็นทางเลือกที่ดีที่คุณมองหาอยู่

By : น้องฟ้า นักศึกษาปี 3 มหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒประสานมิตร
สวัสดีคับ พี่ๆ เพื่อนๆ ชาวWorantex ทุกคน
ผมนายทวีลาภ ประสิทธิ์วรากุล ชื่อเล่น ท๊อป นักศึกษาปี 4 มหาวิทยาลัยรังสิต เป็นผู้เข้าร่วมโครงการWork&Travel ในช่วงSummer 2010 ที่ผ่านมา ก้อจะมาเล่าถึงประสบการณ์ดีๆที่ได้รับมา....ผมได้ทำงานเป็น Lifeguard ขององค์กรแห่งหนึ่งชื่อThe Oasis ที่รัฐ Arizona,Usa.คับ ซึ่งก่อนที่จะไปอยู่ที่นั่นจริง ผมก้อรู้สึกกังวลเล็กน้อยในหลายๆเรื่อง ผมเชื่อว่าคุณๆ เกือบจะทุกคนก้อคงรู้สึกอย่างเดียวกับผม ไม่ว่าจะเป็นเรื่อง งาน ที่อยู่อาศัย สังคม เพื่อนๆ สภาพภูมิอากาศและเงิน นู่น นี่ นั่น คับ แต่เมื่อได้เดินทางไปถึงต่างแดนจริงๆแล้ว ความรู้สึกกังวลนั้นๆ ก้อจะค่อยๆ จางหายไปคับ เพราะเราชาวWorantex จะต้องไปเผชิญกับความจริงที่รออยู่ข้างหน้า ซึ่งอาจจะไม่ใช่อย่างที่เราคิดไว้ ผมขอแนะนำจากประสบการณ์ที่ได้รับมาคือ ต้องมีความพร้อมในทุกๆ ด้านกับสายงานที่คุณไปทำ มีความอดทน ซื่อสัตย์ต่อตนเองและผู้อื่น ทัศนะคติในแง่บวก เปิดใจกว้าง และที่สำคัญต้องมีมนุษยสัมพันธ์ที่ดี เอื้อเฟื้อเผื่อแผ่ต่อผู้อื่น ส่วนประสบการณ์ชีวิตดีๆ ที่ผมได้รับจากอเมริกาคือ ผมว่าน่าจะเป็นความแปลกใหม่ในปัจจัยหลายๆ อย่างเช่น สิ่งแวดล้อม อาหาร ที่อยู่อาศัย เครื่องนุ่งห่ม เป็นชีวิตที่ผมว่าต้องลองไปสักครั้งอ่ะคับ ถ้าคุณชอบผจญภัย กับอะไรใหม่ๆ และการได้แลกเปลี่ยนวัฒนธรรมกับชาวต่างชาตินั้น ถือเป็นการฝึกฝน พัฒนาศักยภาพด้านภาษาของตนเองด้วย ผมว่าคุ้มค่ามากน่ะคับ! สุดท้ายนี้ต้องขอขอบคุณพี่ๆWorantex ทุกๆ คนคับ ที่ช่วยติดต่อ ดำเนินเรื่องต่างๆ ให้ ขอบคุณจริงๆคับ^ ^

By : ท๊อป นักศึกษาปี 4 มหาวิทยาลัยรังสิต
 1 l 2 l
Address 7 Soi Ramkhamhaeng 60 Yak 9 Ramkhamhaeng Rd., Huamark, Bangkapi Bangkok 10240
Tel 02-374-1300 ต่อ 210 , 220
สายด่วน 086-321-1212
Fax 02-374-2600
Email education@worantex.com , info@worentex.com
Line@ @aypthailand
Line ID weducation
Facebook facebook.com/aypthailand
Website www.Worantex.Com
DOT No.11/05836 Thai Traval Agents Association(TTAA) No.929 Thai International Education Consultants Association
Visa MasterCard
forum   ,   Instagram Worantex   ,   ไปเป็นนักเรียนแลกเปลี่ยนอเมริกากับ Worantex   ,   ไปทัวร์ยุโรปกับ Worantex   ,   ไปทัวร์อเมริกากับ Worantex   ,   ไปทัวร์เกาหลีกับ Worantex   ,   ไปทัวร์สิงคโปร์กับ Worantex   ,   ไปซัมเมอร์แคมป์ทัวร์กับ Worantex   ,   ไปทัวร์พม่ากับ Worantex   ,   ไปทัวร์ลาวกับ Worantex   ,   ไปล่องเรือสำราญกับ Worantex
Home   |  About Us   |  News & Activities   |  Promotions   |  Scholarship   |  How to pay   |  Hot Topic   |  New Experience   |  Partner   |  Gallery   |  Announcement   |  Links   |  Contact Us
Terms and Condition   |  Privacy Policy  |  Site Map
  
eXTReMe Tracker
Copyright © 2007-2024 Worantex Education and Travel Co., Ltd. All rights reserved.