แคนาดาเป็นประเทศที่มีคุณภาพการศึกษาสูง ประเทศแคนาดาให้ความสำคัญต่อการศึกษามาก และมีสถานศึกษาชั้นนำ แคนาดาใช้จ่ายเงินต่อคนในด้านการศึกษามากกว่าประเทศอื่น ๆ เป็นประเทศอันดับที่ 3 ที่เป็นสมาชิกขององค์กรความร่วมมือทางเศรษฐกิจและพัฒนา (โออีซีดี) ปริญญาจากมหาวิทยาลัยในแคนาดาเป็นที่ยอมรับอย่างกว้างขวางในระดับสากล และนักศึกษาต่างชาติที่จบการศึกษา จากมหาวิทยาลัยของแคนาดา มักจะประสบความสำเร็จ และความเจริญรุ่งเรืองในหน้าที่การงานจัดเป็นประเทศอันดับหนึ่งของโลก
แคนาดาจัดอยู่ในอันดับ Top 10 ของประเทศที่น่าอยู่ที่สุดของโลก มีการสำรวจว่า แคนาดา ได้คะแนนสูงทางด้านการศึกษา, ประชากรอายุยืน และอาชญากรรมที่น้อยมาก นอกจากนี้ เมืองใหญ่สุดของแคนาดา – แวนคูเวอร์, โตรอนโต และ มอนทรีออล ได้รับการจัดอันดับเป็นเมืองระดับโลกในการอาศัยและทำงานเนื่องมาจากความสะอาดและความปลอดภัย และ กิจกรรมวัฒนธรรม และ ชีวิตที่ดี
มาตรฐานคุณภาพชีวิตสูง
ชาวแคนาดามีมาตรฐานของคุณภาพชีวิตอยู่ในระดับที่ดีที่สุดในโลก ชาวแคนาดาเกือบ 70 เปอร์เซ็นต์มีบ้านเป็นของตนเอง และ มีทรัพย์สินถาวร เช่น บ้าน รถยนต์ ประเทศแคนาดามีระบบประกันสุขภาพและประกันสังคมที่แพร่หลายและมีมาตรฐานสูง.
สิ่งแวดล้อมที่อบอุ่น
แคนาดาเป็นประเทศของผู้อพยพที่หลากหลาย ดังนั้น จึงมีขนบธรรมเนียมประเพณีและนโยบายส่งเสริมให้มีวัฒนธรรมที่หลากหลาย
ประชากรจากเกือบทุกเชื้อสายทั่วโลกอาศัยอยู่ในแคนาดา จึงเป็นผลให้แคนาดามีอาหารของชนหลายเชื้อชาติ และกิจกรรมสันทนาการของชนชาติจากวัฒนะธรรมที่หลากหลายนั้นๆ จึงทำให้นักศึกษาต่างชาติสามารถปรับตัวกับชีวิต
ความเป็นอยู่ได้ง่ายขึ้น
ในย่านใจกลางเมืองใหญ่ๆ ทุกแห่งมีห้างสรรพสินค้า ร้านอาหาร โรงภาพยนตร์ ห้องแสดงภาพ และพิพิธภัณฑ์มากมาย นอกจากนี้เมืองต่างๆ ในแคนาดายังมีสวนสาธารณะ สวนดอกไม้และชายหาดสาธารณะ พร้อมทั้งกีฬาและสันทนาการชั้นเยี่ยมอีกด้วย
สภาพแวดล้อมที่สวยงาม
นักศึกษาที่มาศึกษา ณ ประเทศแคนาดา จะพบกับสภาพแวดล้อมที่สวยที่สุด และคงความงดงามตามธรรมชาติได้มากที่สุดแห่งหนึ่งในโลก แคนาดายังเป็นประเทศที่มีสภาพแวดล้อมทางภูมิศาสตร์ที่หลากหลาย และมีกิจกรรมกลางแจ้งมากมาย เริ่มจากชายฝั่งที่เขียวขจีของมณฑลบริติช โคลัมเบีย เทือกเขาร็อคกี้ขนาดใหญ่ที่มณฑล อัลเบอร์ต้า ท้องฟ้าที่กว้างใหญ่ ของทุ่งหญ้าแพร์รี่ จนถึง “ดินแดนแห่งน้ำตาลเมเปิ้ล” ที่ทะเลสาบทั้งห้า และเซนต์ลอเรนซ์ ไปจนถึงแถบเชิงเขา และชายฝั่งอันงดงามของมณฑลในแถบฝั่งแอตแลนติค
สถานที่ที่ปลอดภัยสำหรับการศึกษา
แคนาดามีชื่อเสียงในเรื่องของความปลอดภัย มีความสงบสุขในสังคม มีอัตราการก่ออาชญากรรมต่ำมาก และยังคงมีแนวโน้มที่ลดลงอย่างต่อเนื่องตั้งแต่ช่วงต้นศกที่ 1990. จากผลการรายงานจากกรมตำรวจในปี 1997 ถึงอัตราการก่ออาชญากรรมของชาวแคนาดาลดลง 5% เป็นเวลา 6 ปีติดต่อกันมา ซึ่งแตกต่างจากประเทศเพื่อนบ้านอย่างประเทศสหรัฐอเมริกา แคนาดาให้การดูแลอย่างเข้มงวด โดยไม่มีการอนุญาติในการพกพาอาวุธแต่อย่างใด
ประเทศแห่งเทคโนโลยีชั้นสูง
แคนาดาเป็นผู้นำทางด้านต่างชาติในด้านคอมพิวเตอร์ และเทคโนโลยีสารสนเทศ มีการพัฒนาด้านอุตสาหกรรมเทคโนโลยีอย่างรวดเร็ว และมีชื่อเสียงทั่วโลกในด้านต่างๆ เช่น โทรคมนาคม การคมนาคม วิศวกรรม โดยเฉพาะอย่างยิ่งในด้านการบิน การคมนาคมชุมชน ไมโครอีเล็คทรอนิกส์ อุปกรณ์ทางการแพทย์ ซอฟท์แวร์ระดับสูง กระแสไฟฟ้าพลังน้ำ และพลังงานนิวเคลียร์ เลเซอร์ และออฟโตอิเล็คทรอนิกส์ เทคโนโลยีชีวภาพ กระบวนการผลิตอาหารและเครื่องดื่ม วิทยาศาสตร์กายภาพ และอุตสาหกรรมสิ่งแวดล้อมทางทะเลจุดเด่นชองอุตสาหกรรมการโทรคมนาคมประกอบด้วย เคเบิล เทเลโกล๊บ แคนแทท 3 ซึ่งเป็นชนิดเดียวของโลกที่รองรับการสื่อสารความเร็วสูงมัลติมีเดียข้ามสมุทร ความร่วมมือภาคีสเต็นเตอร์ ของบริษัทโทรศัพท์หลายแห่ง ได้ลงทุนถึง 8000 ล้านดอลลาร์ เพื่อที่จะให้เป็นวิวัฒนาการล่าสุดของเทคโนโลยี่บรอดแบนด์ถึง 80% ของบ้านที่พักอาศัยในแคนาดา
แคนาดาเป็นประเทศแรกๆที่รู้ความต้องการเชื่อมโรงเรียนและห้องสมุดกับอินเตอร์เน็ตและโปรแกรมเน็ตของโรงเรียนได้รับการยอมรับทั่วโลก แคนาดาเป็นประเทศแรกของโลกที่เชื่อมโรงเรียนและห้องสมุดกับถนนแห่งข้อมูล.
ประเทศที่ใช้ 2 ภาษา
แคนาดาเป็นประเทศที่มีภาษาราชการสองภาษาคือภาษาอังกฤษและภาษาฝรั่งเศส ประชากรส่วนใหญ่ (ร้อยละ 75) ของชาวแคนาดาที่ใช้ภาษาฝรั่งเศสอาศัยอยู่ที่ควิเบค ซึ่งตั้งอยู่่ทางตะวันออกของประเทศ แต่ชุมชนที่ใช้ภาษาฝรั่งเศสก็มีอยู่ทั่วไปในประเทศ
อ้างถึงการสำรวจประชากรในปี ค.ศ. 1991 ร้อยละ 82 ของประชากรชาวควิเบคใช้ภาษาฝรั่งเศษเป็นภาษาแม่ และร้อยละ 83 ของประชากรชาวควิเบคใช้ภาษาฝรั่งเศสเป็นภาษาพูดที่บ้าน
ทั่วโลกคาดว่ามีมากกว่า 100 ล้านคนที่พูดภาษาอังกฤษ และมากกว่า 250 ล้านคน ที่พูดภาษาฝรั่งเศส เนื่องจากแคนาดาเป็นชาติที่พูดสองภาษา เรามีโปรแกรมภาษาทั้งอังกฤษ (ESL) และฝรั่งเศส (FSL) หลากหลาย สำหรับนักเรียนที่อยากเรียนภาษาใดภาษาหนึ่งหรือทั้งสองภาษา
สภาพภูมิอากาศ
สภาพอากาศของแคนาดามีความหลากหลายตั้งแต่ขั้วโลกเหนือที่หนาวเย็นเป็นน้ำแข็งที่เส้นรุ้งที่ 70 ไปจนถึงแนวป่าอันเขียวขจีของแถบชายฝั่งตะวันตกของบริติชโคลัมเบีย อย่างไรก็ตาม โดยทั่วไปแล้ว แคนาดามีฤดูกาลที่แตกต่างกันอย่างเด่นชัด 4 ฤดูโดยเฉพาะอย่างยิ่ง ในแถบภูมิภาคใกล้ชายแดนสหรัฐอเมริกา ที่มีผู้คนอยู่อย่างหนาแน่น อุณหภูมิในช่วงกลางวันของฤดูร้อนอยู่ในช่วง 35 องศาเซลเซียส หรือร้อนกว่านั้น ในขณะที่อุณหภูมิต่ำสุดในฤดูหนาวอาจติดลบถึง 25 องศาเซลเซียส สำหรับอุณหภูมิในช่วงฤดูใบไม้ผลิ และใบไม้ร่วงจะอยู่ในระดับปานกลาง
แคนาดาเป็นสหพันธรัฐที่ประกอบด้วย 10 รัฐ (provinces) และ 3 ดินแดน (territories) ความแตกต่างที่สำคัญระหว่างรัฐกับดินแดนคือ รัฐของแคนาดาได้รับมอบอำนาจจากบทบัญญัติในกฎหมายรัฐธรรมนูญโดยตรง ขณะที่ดินแดนของแคนาดาจัดตั้งขึ้นโดยกฎหมายของสหพันธรัฐ ดังนั้น รัฐบาลสหพันธ์จึงมีอำนาจโดยตรงในการควบคุมดูแลดินแดน ส่วนรัฐบาลของรัฐนั้นจะมีอำนาจและสิทธิในการปกครองตนเองมากกว่า
รัฐและดินแดนของแคนาดามีรายชื่อดังต่อไปนี้
รัฐ
แอลเบอร์ตา
บริติชโคลัมเบีย
แมนิโทบา
นิวบรันสวิก
นิวฟันด์แลนด์และแลบราดอร์
โนวาสโกเชีย
ออนแทรีโอ
ปรินซ์เอ็ดเวิร์ดไอแลนด์
ควิเบก
ซัสแคตเชวัน
ดินแดน
นอร์ทเวสต์เทร์ริทอรีส์
นูนาวุต
ยูคอน
ภูมิศาสตร์ที่ตั้ง ทิศเหนือจรดมหาสมุทรอาร์กติก ทิศใต้จรดสหรัฐอเมริกา ทิศตะวันออกจรดมหาสมุทรแอตแลนติก ทิศตะวันตกจรดมหาสมุทรแปซิฟิก และรัฐอะแลสกาของสหรัฐอเมริกา
พื้นที่ 9,976,140 ตารางกิโลเมตร ขนาดใหญ่เป็นอันดับ 2 ของโลก
เศรษฐกิจแคนาดาเป็นประเทศเดียวในกลุ่มจี 8 ที่มีอัตราการเติบโตทางเศรษฐกิจอย่างต่อเนื่อง สาเหตุสำคัญเนื่องจากแคนาดาเป็นประเทศที่มีมาตรการการค้าที่เสรีและโปร่งใสมากที่สุดประเทศหนึ่งในโลก แคนาดาเป็นประเทศที่พึ่งพิงการค้ากับต่างประเทศเป็นหลัก โดยมีสัดส่วนการค้าต่อผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (GDP) ถึงร้อยละ 45 สำหรับการส่งออก และร้อยละ 40 สำหรับการนำเข้า รูปแบบการค้าและการลงทุนของแคนาดาจะพึ่งพิงกับสหรัฐอเมริกาเป็นหลัก ทั้งสหรัฐอเมริกาและแคนาดาเป็นประเทศคู่ค้าที่สำคัญที่สุดระหว่างกันทั้งการนำเข้าและการส่งออก อีกทั้งยังมีการจัดทำข้อตกลงการค้าเสรีอเมริกาเหนือ (North American Free Trade Agreement: NAFTA) ซึ่งยิ่งช่วยเสริมมูลค่าการค้าระหว่างสองประเทศให้มากยิ่งขึ้น
สำหรับระบบภาษีนำเข้าของแคนาดาประมาณ ร้อยละ 90 เสียภาษีในอัตราร้อยละ 0 อีกทั้งยังให้สิทธิพิเศษแก่สินค้าที่นำเข้าจากประเทศด้อยพัฒนา ยกเว้นในสินค้าประเภทนม สัตว์ปีกและไข่
ทรัพยากรธรรมชาติที่สำคัญ ได้แก่ แก๊สธรรมชาติ ทองคำ ถ่านหิน เหล็ก นิกเกิล โพแทช ยูเรเนียม สังกะสี รวมทั้งป่าไม้
อุตสาหกรรมที่สำคัญของแคนาดา ได้แก่ อุตสาหกรรมป่าไม้ ยานยนต์ อิเล็กทรอนิกส์ การสื่อสารและคมนาคม เหมืองแร่ และพลังงาน
สินค้าส่งออกสำคัญ ได้แก่ สินแร่ เครื่องยนต์ รถยนต์ กระดาษ ไม้เนื้ออ่อน พลังงานปิโตรเลียมดิบ แก๊สธรรมชาติ ไฟฟ้า อะลูมิเนียม อุปกรณ์สื่อสาร ชิ้นส่วนอากาศยาน ระบบคอมพิวเตอร์
สินค้านำเข้าสำคัญ ได้แก่ เครื่องจักร น้ำมันดิบ เคมีภัณฑ์ เครื่องยนต์ สินค้าอุปโภคบริโภค อาหาร
ประเทศคู่ค้าที่สำคัญ ได้แก่ สหรัฐอเมริกา จีน ญี่ปุ่น สหราชอาณาจักร เม็กซิโก และเยอรมนี
ภาคการบริการเป็นภาคกิจการที่สำคัญที่สุดของแคนาดา คิดเป็นสัดส่วนร้อยละ 60 ของภาคเศรษฐกิจของประเทศ ธนาคารชั้นนำของแคนาดา 6 แห่ง เป็นหนึ่งใน 100 ธนาคารชั้นนำของโลก และมีสาขาอยู่ในต่างประเทศทั่วโลกกว่า 60 ประเทศ รวมถึงธนาคารโนวาสโกเชีย ซึ่งมีสาขาอยู่ในไทยด้วย ความก้าวหน้าทางเทคโนโลยี โดยเฉพาะอย่างยิ่งด้านคอมพิวเตอร์และโทรคมนาคม ทำให้แคนาดาสามารถพัฒนาความก้าวหน้าในภาคกิจการนี้เป็นอย่างมาก
ประชากรจำนวนประชากร:32.601.360 ล้านคน (2551)
วัฒนธรรมสังคมของแคนาดาเป็นสังคมที่มีส่วนผสมของชนชาติต่าง ๆ มากมาย โดยชนชาติที่อพยพเข้ามาตั้งถิ่นฐานมากที่สุด ระหว่างปี พ.ศ. 2534 - 2543 คือคนจากเอเชีย (จีน อินเดีย ปากีสถาน ลาว เขมร เวียดนาม ฟิลิปปินส์ อิหร่าน) ซึ่งเพิ่มขึ้นเป็นร้อยละ 59.5 ของคนเข้าเมืองเพื่อตั้งถิ่นฐานในแคนาดา
โดยในปี พ.ศ. 2505 (ค.ศ. 1962) รัฐสภาแคนาดาได้ออกกฎหมายคนเข้าเมืองตามข้อเสนอของพรรคอนุรักษ์นิยม ซึ่งยังคงมีผลบังคับใช้จนทุกวันนี้ สาระสำคัญของกฎหมายดังกล่าวคือการยกเลิกการเลือกปฏิบัติ (ก่อนหน้านี้ มีการออกกฎหมายปี พ.ศ. 2430 (ค.ศ. 1887) เพื่อกีดกันการเข้าเมืองของคนจีน และต่อมาปี ค.ศ. 1910 ได้ออกกฎหมายที่ใช้หลักการแหล่งกำเนิด แบ่งเป็น preferred ซึ่งคือ กลุ่มคนยุโรป และ non-preferred ได้แก่ กลุ่มที่ไม่ใช่ยุโรป) กล่าวคือ การเปิดรับคนเข้าเมืองจากทุกที่อย่างเป็นทางการทั่วไป และการใช้วิธีการคิดคะแนนประเมินน้ำหนัก (point system) ว่าสมควรรับผู้ใดเข้าไปตั้งถิ่นฐานในแคนาดา ทั้งนี้ เป็นที่น่าสังเกตว่า แคนาดามองเรื่องการรับคนเข้าไปตั้งถิ่นฐานอย่างเป็นการถาวร เพื่อเป็นฐานการเก็บภาษีให้แก่รัฐบาลกลางและรัฐบาลของรัฐ
ค่านิยมหลักของสังคมแคนาดาที่ฝังลึกในทุกคนคือ การส่งเสริมและเคารพในสิทธิและเสรีภาพของมนุษย์ ซึ่งเป็นหลักพื้นฐานสำคัญที่สุดของการปกครองในระบอบประชาธิปไตย สังคมแคนาดาจะสนใจอย่างยิ่งต่อพัฒนาการในประเทศที่มีระบอบการปกครองที่มีการละเมิดสิทธิมนุษยชน
ศาสนา โรมันคาธอลิก (ร้อยละ 42) โปรแตสแตนท์ (ร้อยละ 40) อิสเทอร์นออโธดอกซ์ และยิว (ร้อยละ 18)
การศึกษาแคนาดาการศึกษาแคนาดาแคนาดาเป็นประเทศที่สงบเงียบ ปลอดภัย แต่ในขณะเดียวกันมีสภาพเศรฐกิจดี รัฐบาลแคนาดาใส่ใจความเป็นอยู่ของประชากรอย่างมากดังนั้นการศึกษาในประเทศแคนาดาจัดได้ว่าเป็นหนึ่งในประเทศที่มีระบบการศึกษาที่ดีที่สุดในโลก |