ข้อมูลที่ควรรู้ ที่ประเทศญี่ปุ่น เมื่อเข้าสู่ฤดูใบไม้ร่วง (ก.ย.-พ.ย.) ใบไม้ส่วนใหญ่ จะเริ่มเปลี่ยนสีจากสีขาวเป็นสีเหลืองส้มหรือแดง ก่อนที่จะร่วงหล่นไปจนหมดต้น ใบของต้นไม้บางชนิดเช่น ใบอิโจ (แปะก้วย) จะเปลี่ยนเป็นสีเหลืองก่อนจะร่วงหล่นจนหมดต้น ทำให้ธรรมชาติในยามนั้น งดงามด้วยสีที่สดใสตระการตาน่าภิรมย์ยิ่ง ซึ่งน่าจะเรียกเป็นฤดูใบไม้เปลี่ยนสีมากกว่าฤดูใบไม้ร่วง
ตามปกติใบไม้จะเริ่มเปลี่ยนสี จากทางภาคเหนือลงสู่ภาคใต้ของญี่ปุ่น ราวต้นเดือนตุลาคมจนถึงปลายเดือนพฤศจิกายนของทุกปี ซึ่งตรงกันข้ามกับดอกซากุระ ที่จะเริ่มบานจากท้องถิ่นทางภาคใต้ขึ้นสู่ภาคเหนือ แต่ช่วงเวลาที่ใบไม้เปลี่ยนสี และช่วงเวลาที่ดอกซากุระบาน จะคลาดเคลื่อนแตกต่างกันไปในแต่ละปี ซึ่งขึ้นอยู่กับสภาพอากาศและอุณหภูมิในปีนั้นๆ
ในบรรดาฤดูกาลทั้งสี่ของญี่ปุ่น ฤดูที่ชาวญี่ปุ่นปิติยินดีกันมากที่สุด คือฤดูที่ดอกซากุระเบ่งบาน กล่าวกันว่า ชาวญี่ปุ่นชื่นชอบซากุระมาตั้งแต่ 1,300 ปีก่อนจากหลักฐานเอกสารในยุคนั้น ทำให้ทราบว่าชาวญี่ปุ่นในสมัยโบราณต่างก็หลงในความงดงามของดอกซากุระ
ในทุกๆ ปีกรมอุตุนิยมวิทยาของญี่ปุ่นจะพยากรณ์ช่วงเวลาที่ดอกซากุระ ผลิดอก และประกาศให้ประชาชนทราบล่วงหน้า ซึ่งชาวญี่ปุ่นก็จะวางแผนเดินทาง ไปชมดอกซากุระตามช่วงเวลาดังกล่าว ดอกซากุระจะเริ่มบานจากทางภาคใต้เรื่อยขึ้นไปทางภาคเหนือ ซึ่งแตกต่างกันไปในแต่ละปี ขึ้นอยู่กับสภาพอากาศใน ปีนั้นๆ ช่วงเวลาที่ระบุอยู่ในเอกสารฉบับนี้ จึงเป็นเพียงการประมาณการเท่านั้น เนื่องจากไม่มีใครรู้แน่ชัดว่าดอกซากุระจะบานเมื่อไร ชาวญี่ปุ่นจึงต่างเฝ้ารอวันที่ซากุระจะผลิดอกบาน ระยะเวลาที่ดอกซากุระบานแตกต่างกันไปตามสายพันธุ์ โดยทั่วไปจะบานประมาณ 1 สัปดาห์ เนื่องจากใน 1 ปี ดอกซากุระจะบานเพียง 1 สัปดาห์เท่านั้น จึงทำให้ดอกซากุระกลายเป็นดอกไม้ที่ล้ำค่า แม้ในยามที่กลีบดอกซากุระร่วงหล่น ผู้คนก็ได้สัมผัสถึงความงดงามที่เรียกว่า "วะบิซะบิ" (ความงามอันแสนเศร้า) ซึ่งเป็นเอกลักษณ์เฉพาะตนของชาวญี่ปุ่น และนี่คงเป็นสาเหตุที่ ทำให้ชาวญี่ปุ่นหลงใหลในความงามของดอกซากุระตั้งแต่โบราณมา
ถึงแม้ว่าจะมีชื่อว่า "ซากุระ" เหมือน กัน แต่ความจริงแล้วซากุระมีกว่า 300 สายพันธุ์ที่แตกต่างกันที่ สี รูปทรง และช่วงเวลาที่ดอกผลิบานนั้น จะแตกต่างกันไปตามสายพันธุ์ ดอกซากุระ ทั่วไปเป็นสายพันธุ์ที่มีชื่อว่า "โซเมอิโยชิโนะ" ซึ่งมีมากที่สุดในญี่ปุ่น จึงถูกขยายพันธุ์ไปทั่วโลกได้ โดยฝีมือของมนุษย์ จากต้นไม้เริ่มแรกเพียงต้นเดียว จะเริ่มผลิดอกเร็วที่สุด ราวกลางเดือนมีนาคม ในท้องถิ่นทางภาคใต้ สุดของญี่ปุ่น และจะผลิดอกช้าที่สุด ราวปลายเดือนพฤษภาคมใน ท้องถิ่นทางภาคเหนือสุด แต่ก็มีบางสายพันธุ์ที่ผลิดอกเร็วกว่าหรือช้ากว่า ดังนั้น หากจะว่าไปแล้ว เราสามารถพบเห็นซากุระได้ ไม่ที่ใดก็ที่หนึ่งในญี่ปุ่น ตั้งแต่เดือนกุมภาพันธ์จนถึง เดือนมิถุนายน ดอกซากุระในแถบภาคตะวันออกเฉียงเหนือของญี่ปุ่นก็คงผลิบานเต็มที่ ในช่วงเวลาเดียวกับเทศกาลสงกรานต์ของไทย
เมื่อถึงฤดูกาลที่ดอกซากุระผลิบาน ชาวญี่ปุ่นจะจัดงานเทศกาลชมดอกไม้หรือ ชาวญี่ปุ่นเรียกว่า "โอฮะนะมิ" พวกเขาจะปูเสื่อใต้ต้นซากุระ ทานอาหารอร่อยๆ และดื่มเหล้าสังสรรค์ร่วมกันอย่างครื้นเครง ซึ่งได้กลายมาเป็นวัฒนธรรมอย่างหนึ่ง ของชาวญี่ปุ่นตั้งแต่ราว 500 ปีก่อนถึงปัจจุบัน พอถึงเทศกาลชมดอกไม้ จะเห็น บรรดาพนักงานบริษัท และเหล่านักเรียน นักศึกษา รวมกลุ่มกับเพื่อนๆ ส่งเสียงดังครึกครื้นอยู่ใต้ต้นซากุระ สถานที่ชมซากุระที่แนะนำในเอกสารฉบับนี้ เป็นเพียงแค่ส่วนหนึ่งเท่านั้น ความจริงหากเข้าสู่ฤดูกาลนี้ ไม่ว่าท่านจะเดินทางไปที่ไหนในญี่ปุ่น ก็สามารถชื่นชมดอกซากุระได้ จึงขอเชิญชวนทุกท่าน ให้เดินทางไปสัมผัสบรรยากาศ ในฤดูกาลแห่งดอกซากุระบาน ซึ่งสวยงามที่สุดในบรรดาฤดูทั้งสี่ของญี่ปุ่นสักครั้งหนึ่ง
ชิมผลไม้ตามฤดูกาล
คนญี่ปุ่น สามารถสัมผัสได้ถึงการเปลี่ยนแปลง ของฤดูกาลต่างๆ ผ่านดอกไม้ที่เบ่งบาน และผลไม้ที่ออกผล ในแต่ละช่วงเวลามาตั้งแต่สมัยโบราณ และเนื่องจากญี่ปุ่นมีถึง 4 ฤดู จึงทำให้พืชผลต่างๆ มีความหลากหลาย และทุกๆปีดอกไม้และผลไม้ จะออกดอกออกผล
replica watches uk for sale ในช่วงฤดูกาลของมันเช่นเดิมไม่เปลี่ยนแปลง การเพลิดเพลินกับพันธุ์ไม้ และผลไม้ที่แตกต่างกันไปในแต่ละฤดูนั้น ได้กลายเป็นส่วนหนึ่งของวิถีชีวิตชาวญี่ปุ่น และตลอดทั่วทั้งประเทศญี่ปุ่น จะมีสวนผลไม้ที่นักท่องเที่ยว สามารถไปชิมผลไม้ได้อย่างไม่จำกัด ด้วยค่าใช้จ่ายที่ไม่แพง ผลไม้หลายชนิดของญี่ปุ่น ได้ชื่อว่ามีรสชาติที่อร่อยกว่าที่ไหนๆ ต่อไปนี้เป็นบางส่วนของรายชื่อสวนเก็บผลไม้ ที่มีชื่อเสียงที่อยากแนะนำ
สตรอเบอรี่ ฤดูกาลที่เปิดให้เก็บสตรอเบอรี่ได้ ส่วนใหญ่เปิดบริการช่วงเดือน ม.ค.-พ.ค. บางแห่งเปิดสวนตั้งแต่เดือน พ.ย. และบางแห่งก็เปิดให้เก็บได้จนถึงเดือน มิ.ย. แม้ว่าจะอยู่ในช่วงฤดูเก็บสตรอเบอรี่ก็ตาม แต่บางครั้งหากมีผู้คนเดินทางไปกันมากๆ สตรอเบอรี่อาจมีไม่พอเพียงได้ เพื่อไม่ให้ไปเสียเที่ยว จึงควรโทรไปสอบถามที่สวนล่วงหน้า จังหวัดที่ปลูกมากที่สุดในญี่ปุ่น 3 อันดับแรก อันดับที่ 1 จังหวัดโทะจิงิ อันดับที่ 2 จังหวัดฟุกุโอะกะ อันดับที่ 3 จังหวัดซะงะ ราคา เด็ดสตรอเบอรี่ทานได้ตามสบาย ภายในเวลา 30 นาที โดยทั่วไปตกประมาณคนละ 1000-1500 เยน หากนำกลับบ้านด้วย จะต้องชำระเงินเพิ่ม
เชอรี่ จังหวัดที่มีสวนเชอรี่ดังๆ ที่เปิดให้เข้าไปเก็บทานได้ ได้แก่ จังหวัดยะมะงะตะ ส่วนจังหวัดที่อยู่รอบๆ กรุงโตเกียวก็เช่น จังหวัดกุมมะ และจังหวัดยะมะนะชิ ฤดูกาลที่เปิดให้เก็บเชอรี่ได้คือ เดือน มิ.ย. - เดือน ก.ค. (ประมาณ 1 เดือน) จังหวัดที่ปลูกเชอรี่มากที่สุด ในญี่ปุ่น 3 อันดับแรก อันดับ 1 จังหวัดยะมะงะตะ อันดับ 2 จังหวัดอะโอะโมะริ อันดับ 3 จังหวัดยะมะนะชิ
cheap breitling fake watches uk ราคาเก็บทานได้อย่างอิสระภายในเวลา 30 นาที - 1 ชม. ส่วนใหญ่ราคาอยู่ราวๆ 1500-2000 เยน หากนำกลับบ้านจะต้องชำระเงินเพิ่ม
ท้อ สวนที่เปิดให้คนทั่วไปเข้าไปเก็บท้อส่วนใหญ่ อยู่ทางตอนเหนือห่างจากกรุงโตเกียว ที่อยู่ใกล้กรุงโตเกียวก็มี จังหวัดยะมะนะชิ ฤดูกาลที่เปิดให้เก็บท้อได้ เดือน ก.ค. - เดือน ส.ค. จังหวัดที่ปลูกท้อมากที่สุดในญี่ปุ่น 3 อันดับแรก อันดับ 1 จังหวัดยะมะนะชิ อันดับ 2 จังหวัดฟุกุชิมะ อันดับ 3 จังหวัดนะงะโนะ ราคา เด็ดทานได้อย่างอิสระ ในราคาประมาณ 1500 เยน หากนำกลับบ้านด้วยจะต้องชำระเงินเพิ่ม
องุ่น สวนที่เปิดให้คนทั่วไปเข้าไปเก็บองุ่น ส่วนใหญ่อยู่รอบๆ กรุงโตเกียว และแถบโทโฮคุ ที่อยู่รอบกรุงโตเกียวได้แก่ จังหวัดยะมะนะชิ และ จังหวัดไอจิ ซึ่งอยู่ห่างจาก นาโงย่า ราว 1 ชม. นอกจากนี้ ท้องถิ่นต่างๆ ทั่วญี่ปุ่นไม่ว่าจะเป็นแถบคิวชู หรือ ฮอกไกโด ก็มีสวนองุ่นเช่นกัน ฤดูกาลที่เปิดให้เก็บองุ่นได้ ราวๆเดือน ก.ค. - ต.ค. แตกต่างกันไปตามสายพันธุ์ จังหวัดที่ปลูกองุ่นมากที่สุดในญี่ปุ่น 3 อันดับแรก อันดับที่ 1 จังหวัดยะมะนะชิ อันดับที่ 2 จังหวัดนะงะโนะ อันดับที่ 3 จังหวัดยะมะงะตะ ราคาส่วนใหญ่จะไม่จำกัดเวลาในการเก็บ ราคาประมาณคนละ 1500 เยน หากนำกลับบ้าน จะต้องชำระเงินเพิ่ม แต่ก็มีบางสวนที่แถมองุ่นเป็นของฝากกลับบ้านด้วย
สาลี่ สวนสาลี่นั้นมีอยู่ทั่วประเทศ โดยเฉพาะรอบกรุงโตเกียว จะมีมากเป็นพิเศษ ไม่ว่าจะเป็น จังหวัดนะงะโนะ จังหวัดจิบะ และ จังหวัดโทะจิงิ เป็นต้น ฤดูกาลที่เปิดให้เก็บสาลี่ได้ ประมาณปลายเดือน ส.ค. - เดือน ต.ค. จังหวัดที่ปลูกสาลี่มากที่สุดในญี่ปุ่น 3 อันดับแรก อันดับ 1 จังหวัดจิบะ อันดับ 2 จังหวัดอิบะระกิ อันดับ 3 จังหวัดทตโตะริ ราคาส่วนใหญ่ประมาณ 500 เยน และสามารถนำสาลี่กลับไปเป็นของฝากได้ 2-3 ลูก
แอปเปิ้ล นักท่องเที่ยว มักจะเดินทางไปเก็บแอปเปิ้ลกันที่แถบโทโฮคุ และจังหวัดนะงะโนะ กุมมะ โทะจิงิ ว่ากันว่า แอปเปิ้ลแดงนั้น ดีต่อสุขภาพ หากทานวันละ 1 ผล ร่างกายจะแข็งแรงห่างไกลโรคภัยไข้เจ็บ ทั้งยังดีต่อผู้ที่เป็นโรคความดันโลหิตสูง ช่วยให้ร่างกายผ่อนคลายหายเหนื่อย และช่วยปรับระบบย่อยอาหารให้ทำงานดีขึ้น แอปเปิ้ลมีมากมายหลายพันธุ์ แต่ที่ได้รับความนิยมมากได้แก่ พันธุ์ "ฟูจิ" "ทสึงารุ" และ "โอริน" ต้นแอปเปิ้ลบางพันธุ์ไม่สูงมากนัก แม้แต่เด็กก็เด็ดได้ แต่บางพันธุ์ ต้นก็สูงมาก ขนาดต้องใช้บันไดเพื่อปีนขึ้นไปเด็ด สวนที่เปิดให้คนทั่วไปเข้าไปเก็บแอปเปิ้ล ส่วนใหญ่อยู่แถบโทโฮคุ หากเป็นรอบๆ กรุงโตเกียวก็มี จังหวัดโทะจิงิ และจังหวัดนะงะโนะ ฤดูกาลที่เปิดให้เก็บแอปเปิ้ลได้ประมาณ เดือน ก.ย. - ต้นเดือน ธ.ค. จังหวัดที่ปลูกแอปเปิ้ลมากที่สุดในญี่ปุ่น 3 อันดับแรก อันดับ 1 จังหวัดอะโอะโมะริ อันดับ 2 จังหวัดนะงะโนะ อันดับ 3 จังหวัดอิวะเตะ ราคาประมาณ 500 เยน โดยสามารถลองชิมก่อนได้ หากนำกลับบ้านจะต้องชำระเงินเพิ่ม
อันซึ ดอกอันซึ จะมีลักษณะคล้ายๆ กับดอกซากุระ จะบานช่วงเดือนเมษายน สามารถไปชมดอกอันซึได้ที่ จังหวัดนะงะโนะ อันซึจะออกผลประมาณ
cheap cartier replica uk ปลายมิถุนายนถึง กลางเดือนกรกฏาคม ผลของมันมีลักษณะคล้ายลูกท้อ แต่มีขนาดเล็กกว่ามาก มีเส้นผ่านศูนย์กลางประมาณ 4 เซนติเมตร มีสีเหลืองอมแดง วางขายตามซุปเปอร์ทั่วไป แต่คนญี่ปุ่นไม่ค่อยนิยมกินผลสดๆ ของมัน เพราะจะมีรสออกเปรี้ยว มักจะเอาไปตากแห้ง เพราะมันจะมีความหวานมากกว่าตอนที่เป็นผลสดๆ นอกจากนี้ ยังเอาไปทำแยม ทำน้ำผลไม้ และดองเป็นเหล้าด้วย สามารถไปเก็บกินอันซึได้ที่ไร่อันซึในจังหวัดนะงะโนะ และยังมีบริการสอนทำแยมจากอันซึที่เก็บได้อีกด้วย
บิวะ มีมากในช่วง เดือนพฤษภาคมถึงเดือนกรกฏาคม รูปร่างและรสชาติของบิวะ คล้ายๆมะปรางของบ้านเรา วิธีรับประทานคือ ใช้มือปอกจากด้านท้าย มาด้านหัวเปลือก จะลอกออกได้โดยง่าย หลังจากปอกเปลือกแล้ว ควรทานทันที มิฉะนั้น ผลจะเปลี่ยนเป็นสีน้ำตาลไม่น่าทาน ไม่นิยมนำบิวะไปแช่ตู้เย็นนานๆ เพราะจะทำให้เนื้อช้ำ หากต้องการทานแบบเย็นๆ ให้นำไปแช่ก่อนทานสองชั่วโมง ผลิตภัณฑ์ที่ทำจากบิวะ มีบิวะกระป๋อง แยม นอกจากนี้ยังนิยมทำเป็นผลไม้ดองอีกด้วย
เกาลัด ผลไม้ในฤดูใบไม้ร่วง เดือนกันยายนถึงเดือนพฤศจิกายน จะออกผลตอนช่วงวันไหว้พระจันทร์ นำมาต้มในน้ำเดือด ประมาณสามสิบนาที จนเนื้อข้างในนิ่ม หั่นครึ่งใช้ช้อนคว้านเนื้อกิน บางคนนิยมเอาไปทำเป็นข้าวอบเกาลัด ขนมญี่ปุ่น ที่กินกับชาเขียว บางชนิดก็ทำจากเกาลัด นอกจากนี้ ยังนำมาทำเค้กมองบลังค์ ซึ่งเป็นเค้กที่ได้รับความนิยมอย่างมาก ในหมู่คนญี่ปุ่น ในช่วงวันปีใหม่ของญี่ปุ่น จะมีประเพณีการกินอาหารปีใหม่ ซึ่งในจำนวนนี้มีอาหารที่เรียกว่า คุริคินทง เป็นอาหารที่ทำจากเกาลัดและเผือกอยู่ด้วย
เมลอน มีมากในฤดูใบไม้ผลิ ตั้งแต่ เดือนเมษายนถึงต้นเดือนสิงหาคม มีหลายพันธุ์ ชนิดที่มีเนื้อสีส้ม สีเขียว และออกสีขาว หากยังไม่สุกควรทิ้งไว้ในอุณหภูมิห้องรอจนสุก มักนิยมนำมาแช่ให้เย็นก่อนรับประทานสองถึงสามชั่วโมง ไม่ควรแช่นานเกินไป เพราะจะทำให้ความหวานลดลง เมลอนที่ราคาแพง จะมีราคาถึงลูกละหมื่นบาททีเดียว แต่ที่ขายตามซูเปอร์มาร์เก็ต ก็อยู่ในราคาที่พอจะซื้อได้อยู่ คนญี่ปุ่นนิยมให้เมลอนเป็นของขวัญ
ส้ม มีมากในช่วง เดือนตุลาคมถึงเดือนกุมภาพันธุ์ ในช่วงฤดูหนาวของญี่ปุ่นจะมีผลไม้เพียงไม่กี่ชนิด ในจำนวนนี้ก็มีส้มอยู่ด้วย ส้มเป็นผลไม้ที่ขาดไม่ได้ในฤดูหนาว บางบ้านถึงกับซื้อเก็บไว้เป็นลัง เพราะราคาไม่แพง ส้มมีหลากหลายพันธุ์มาก รสชาติ และความหวานก็ต่างกันแล้วแต่ชนิดพันธุ์ บางพันธุ์ไม่มีเมล็ดเลย เปลือกบาง กินได้ไม่รู้จักเบื่อ อาจนำไปแช่ช่องฟรีซ เก็บไว้กินหน้าร้อนได้อีกด้วย ผลิตภัณฑ์ที่ทำจากส้ม มีส้มกระป๋อง น้ำส้ม เปลือกส้มสามารถนำไปตากแห้ง คั่วให้แห้งแล้วคลุกน้ำตาล ทำเป็นของกินยามว่างได้ เปลือกส้มถ้าล้างให้สะอาดแล้วใส่ถุง ยังสามารถนำไปใส่ไว้ในอ่างอาบน้ำ กลิ่นของมันทำให้คลายเครียดได้
ลูกพลับ เป็นผลไม้ที่มีมาก ในฤดูใบไม้ร่วง ตั้งแต่เดือนตุลาคม ถึงเดือนธันวาคม ลูกพลับญี่ปุ่นจะมีขนาดใหญ่กว่าที่ไทย และมีรสชาติหวานมากกว่าด้วย ตามซูเปอร์จะมีป้ายบอกถึงปริมาณความหวานของลูกพลับด้วย ลูกพลับแบ่งออกเป็นสองชนิดใหญ่ๆ คือลูกพลับที่มีรสหวาน และลูกพลับที่มีรสฝาด ชนิดที่มีรสฝาดนั้น หากนำไปตากแห้ง จะทำให้มีความหวานมากขึ้น อีกทั้งจะมีผลึกน้ำตาลสีขาวๆ เกาะอยู่รอบๆลูกพลับด้วย ในปัจจุบันได้คิดค้นลูกพลับพันธุ์ที่ไม่มีเมล็ดด้วย บางคนนิยมนำลูกพลับที่สุกมากๆ ไปแช่ช่องฟรีซ เพราะจะทำให้เนื้อลูกพลับมีลักษณะเป็นเกร็ดน้ำแข็ง คล้ายเชลเบ็ท หากใครที่ไปเที่ยวญี่ปุ่นในช่วงนี้ คงยากที่จะไม่ซื้อลูกพลับกลับมาเป็นของฝากแน่นอน
แตงโม มีมากเดือนมิถุนายนถึงเดือนสิงหาคม มีทั้งลูกขนาดกลางและขนาดใหญ่ จะแบ่งขายเป็นเสี้ยวบ้าง ครึ่งลูกบ้าง ห่อด้วยแร็ป แตงโมที่นี่มีรสหวานฉ่ำมาก มีน้ำเยอะ หากนำไปแช่ตู้เย็น แตงโมจะมีความหวานมากขึ้น กินตอนฤดูร้อนจะช่วยให้คลายความร้อนได้มาก พอถึงฤดูร้อน จะมีผลิตภัณฑ์ที่ทำจากแตงโมมาวางขายด้วย เช่น ไอศครีมรสแตงโม เยลลี่รสแตงโม ลูกอม เป็นต้น ปัจจุบันมีแตงโมพันธุ์ใหม่ๆ ลักษณะแปลกๆ เกิดขึ้นมากเช่น แตงโมรูปทรงสี่เหลี่ยมลูกบาศก์ แตงโมขนาดยักษ์ เป็นต้น ที่ญี่ปุ่นมีการละเล่นปิดตาตีลูกแตงโมด้วย